• ดู
ก่
อนภิ
กษุ
ทั้
งหลาย ดวงตาคื
อปั
ญญาเห็
นธรรม และการกำ
�หนดรู้
ความหยั่
งรู้
เหตุ
ผล ตลอดถึ
ง
ความรู้
แจ้
ง และความมี
ใจสว่
าง ในธรรมทั้
งหลายที่
ไม่
เคยรู้
มาก่
อน ได้
เกิ
ดขึ้
นในปั
ญญาของเรา
แล้
วว่
า “มรรคคื
อทาง ๘ ประการ อั
นเป็
นข้
อปฏิ
บั
ติ
ให้
ทุ
กข์
ดั
บไปจากใจได้
อย่
างแท้
จริ
งนี้
นั้
นแล
เราได้
ทำ
�ให้
มี
ในใจไว้
ตลอดเวลาแล้
ว” ฯ
• ดู
ก่
อนภิ
กษุ
ทั้
งหลาย ความจริ
ง ๔ อย่
าง อั
นทำ
�ให้
ใจห่
างไกลจากกิ
เลสนี้
ถ้
าหากเรายั
งไม่
รู้
เห็
น
ตามความเป็
นจริ
ง โดยอาการหมุ
นเวี
ยนแห่
งปั
ญญาญาณ ครบ ๓ รอบทั้
ง ๔ อย่
าง รวมเป็
น
อาการ ๑๒ รอบ ด้
วยปั
ญญาอั
นบริ
สุ
ทธิ์
หมดจดของเราเพี
ยงใดแล้
ว ฯ
• ดู
ก่
อนภิ
กษุ
ทั้
งหลาย เราก็
ไม่
กล้
าประกาศยื
นยั
นแก่
มนุ
ษยโลก ตลอดถึ
ง เทวโลก มารโลก พรหม
โลก รวมทั้
งหมู่
สั
ตว์
พร้
อมทั้
งสมณพราหมณ์
พร้
อมทั้
งเทวดาและมนุ
ษย์
ให้
ได้
รู้
เพี
ยงนั้
น ว่
าเรา
ได้
ตรั
สรู้
พร้
อมยิ่
ง ซึ่
งปั
ญญาเครื่
องตรั
สรู้
โดยชอบอั
นยอดเยี่
ยม ซึ่
งไม่
มี
ความตรั
สรู้
อื่
นในโลกใดๆ
หรื
อของใครๆ จะเที
ยบได้
ฯ
• ดู
ก่
อนภิ
กษุ
ทั้
งหลาย ก็
เมื่
อใดแล ความจริ
ง ๔ อย่
าง อั
นทำ
�ให้
ใจห่
างไกลจากกิ
เลสนี้
เราได้
รู้
เห็
น
ตามความเป็
นจริ
ง โดยอาการหมุ
นเวี
ยนแห่
งปั
ญญาญาณ ครบ ๓ รอบทั้
ง ๔ อย่
าง รวมเป็
น
อาการ ๑๒ รอบ ด้
วยปั
ญญาอั
นบริ
สุ
ทธิ์
หมดจดแล้
ว ฯ
• ดู
ก่
อนภิ
กษุ
ทั้
งหลาย เมื่
อนั้
นเราจึ
งกล้
ายื
นยั
นประกาศแก่
มนุ
ษยโลก ตลอดถึ
ง เทวโลก มารโลก
พรหมโลก รวมทั้
งหมู่
สั
ตว์
พร้
อมทั้
งสมณพราหมณ์
พร้
อมทั้
งเทวดาและมนุ
ษย์
ให้
ได้
รู้
เฉพาะว่
า
เราได้
ตรั
สรู้
พร้
อมยิ่
งซึ่
งปั
ญญาเครื่
องตรั
สรู้
โดยชอบธรรมอั
นยอดเยี่
ยม ซึ่
งไม่
มี
ความตรั
สรู้
อื่
นใน
โลกใดๆ หรื
อของใครๆ จะเที
ยบได้
ฯ
• ก็
แล ปั
ญญาอั
นรู้
เห็
นได้
เกิ
ดขึ้
นแก่
เราแล้
วว่
า “กิ
เลสเครื่
องรั
ดรึ
งใจทั้
งหลายไม่
สามารถจะกำ
�เริ
บขึ้
น
มาได้
อี
กแล้
ว จิ
ตของเราได้
หลุ
ดพ้
นจากกิ
เลสโดยวิ
เศษแล้
ว ชาติ
นี้
เป็
นชาติ
สุ
ดท้
ายของเราแล้
ว
บั
ดนี้
ไม่
มี
ภพเป็
นที่
เกิ
ดสำ
�หรั
บเราอี
กแล้
ว” ฯ
• ครั้
นเมื่
อพระผู้
มี
พระภาคเจ้
า ทรงแสดงความจริ
ง ๔ อย่
างอั
นประเสริ
ฐ อั
นทำ
�ให้
ใจห่
างไกลจาก
กิ
เลสอย่
างนี้
แล้
ว ฯ
• พระภิ
กษุ
ปั
ญจวั
คคี
ย์
เหล่
านั้
น ก็
มี
ความเพลิ
ดเพลิ
นยิ
นดี
ในธรรมที่
พระพุ
ทธองค์
ทรงตรั
สแล้
วนั้
น ฯ
• ก็
ในเมื่
อขณะที่
พระผู้
มี
พระภาคเจ้
าทรงกล่
าวแสดงความละเอี
ยดพิ
สดารแห่
งความจริ
งอั
นประเสริ
ฐ
๔ ประการอยู่
นั่
นแล
• ดวงตาคื
อปั
ญญาอั
นเห็
นธรรม ซึ่
งปราศจากจากธุ
ลี
ปราศจากมลทิ
นได้
เกิ
ดแล้
วแก่
ท่
านโกณฑั
ญญะ
ผู้
มี
อายุ
อย่
างนี้
ว่
า “สิ
งใดสิ่
งหนึ่
งมี
ความเกิ
ดขึ้
นเป็
นธรรมดาแล้
ว สิ่
งนั้
นๆ ทั้
งปวง ก็
ต้
องดั
บสลายไป
เป็
นธรรมดา” ฯ
• ก็
เมื่
อพระผู้
มี
พระภาคเจ้
า ได้
ทรงประกาศวงล้
อแห่
งธรรมให้
เป็
นไปแล้
วนั่
นแล
• ภู
มิ
เทวดาทั้
งหลาย ก็
ส่
งเสี
ยงให้
มั
นลื
อลั่
นขึ้
นว่
า
• “นั่
นคื
อวงล้
อแห่
งธรรมอั
นยอดเยี่
ยม ไม่
มี
อะไรเที
ยบได้
อั
นพระผู้
มี
พระภาคเจ้
าได้
ทรงประกาศให้
เป็
นไปแล้
ว ที่
ป่
าอิ
สิ
ปตนมฤคทายวั
น ใกล้
เมื
องพาราณสี
ซึ่
งวงล้
อแห่
งธรรมอย่
างนี้
อั
นสมณพราหมณ์
ตลอดถึ
ง เทวดา มาร พรหม และ ใครๆ ในโลก ไม่
สามารถให้
เป็
นไปได้
”
• เทพเจ้
าเหล่
าที่
เกิ
ดในหมู่
พรหมชั้
นอั
ปปมาณสุ
ภาพรหม ได้
ฟั
งเสี
ยงของเทพเจ้
าเหล่
าที่
เกิ
ดในหมู่
พรหมชั้
นปริ
ตตสุ
ภาพรหมแล้
ว ก็
ส่
งเสี
ยงให้
บั
นลื
อลั่
นขึ้
น ฯ
(๑๕)