พิธีบวงสรวง การตั้งศาลฯ และเกร็ดความรู้ในพิธีกรรมต่างๆ

พิธีบวงสรวง และเกร็ดความรู้ในพิธีกรรมต่างๆ ตามแนวคําสอนของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เรื่องบวงสรวงป้องกันไฟไหม้และฟ้าผ่าอีกเรื่อง (หลวงพ่อสนทนาหลังจากแสดงพระธรรมเทศนา เมื่อวันเข้าพรรษา ๑ สิงหาคม ๒๕๒๘) ...และก็ สําหรับหมู ไก่ ท่านสั่งให้ทาสีแดงให้หมด นี่กระดาษรองพื้นให้ใช้ กระดาษสีแดง นี่หมายถึงไฟนะ ทุกคนก็ร่วมกันบวงสรวง ถ้าสีแดงนี่กันไฟแน่นอน เพราะว่าเคยทําแล้วครั้งหนึ่งที่จังหวัดชัยนาท นานแล้ว ตั้งแต่ พ.ศ. เท่าไร ๒๕๐๗-๒๕๐๘ ตอนนั้นยังตั้งศาลให้ชาวบ้านเขาอยู่ พอบวงสรวงเสร็จ ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ องค์มา บอกว่า “แถวนี้ไฟจะไหม้ครับ” ถามว่า “เอ้า ! เขาตั้งศาลแล้วไปไหม้ได้เหรอ” ท่านบอกว่า “ก็ไหม้ได้” ถ้าเลยกฎของ กรรมไป กําลังแรง ภุมเทวดาต้านไม่อยู่” บอก “เอ๊ะ ! อย่างนั้นก็แย่ซิ ตึกทั้งแถว ๒ แถวร่วมกันมันต่อกัน” ท่านบอก “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ถามเจ้าภาพซิ เขาจะยอมเสียสตางค์อีกไหม” เลยบอกว่า “ไฟจะเกิดจากจุดไหน” ท่านบอก “เกิด (แล้วก็ชี้ไปที่โรงแรมหนึ่ง) ชั้นบน ของโรงแรมน่ะ เป็นจุดที่เกิดเพลิงไฟ” ถาม “แล้วจะให้ทําอย่างไร” ท่านก็บอกว่า “ให้เขาเอาหมูทาสีแดง ไก่ทาสีแดง แล้ว กระดาษรองด้วยสีแดง แล้วทําพิธีตามนี้ ผมจะช่วย” แล้วถาม “ไฟจะไหม้ไหม” ท่านบอก “ต้องไหม้” ฉันถามว่า “แล้วกัน ! จะช่วยแล้วไฟยังไหม้หรือ ไหม้อะไร” ท่านบอก “ไหม้เสื้อผ้า และกระดาษนิดหน่อย นี่ต้องไหม้แน่ แต่ดับทัน อาคารไม่เสียหาย ไม่ไหม้ ฝาก็ไม่ไหม้” ฉันบอก “ตกลง ไหม้ผ้าขี้ริ้วได้ไหม” ท่านบอก “ไม่รู้หรอก เอามันกองตรงนั้น ผ้าดีก็ ผ้าดีกองตรงนั้น ผ้าขี้ริ้วก็ผ้าขี้ริ้ว” นี่ท่านบอกให้เลยนะ เขาก็เลยรีบทํากัน แล้ววันเวลาที่ท่านบอกตรง ไฟติดตรงนั้นจริงๆ เลยไหม้ผ้าขี้ริ้วหมดไป นี่ต้องใช้ผ้า ใหม่แทนนะ ใช่ไหม ท่านปลัด จะเอาผ้าเช็ดมาทําอะไรดี ผ้าเก่าไม่มี ก็เอาผ้าใหม่มาซิ มันก็ เท่าผ้าใหม่นั่นแหละ ใช่ไหม แต่ก็ช่างมันเถอะ ผ้ามันเก่าแล้ว เป็นอันว่า ใครไม่อยากให้ไฟไหม้บ้าน ไม่อยากให้เกิดเหตุร้ายขึ้นในบ้านมาร่วมกันใน พิธีบวงสรวงนะ ร่วมกันถือว่าเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ก็ไปรวมกันที่หน้าพระเจ้าพรหมมหาราช นั่งกันในที่ตรงนั้นก็ได้ นั่งในศาลาก็ได้ ตอนเย็นวันนี้เวลา ๖ โมง พรุ่งนี้หลังจากทําบุญจากนี่ลงไปแล้ว ก็ทําพิธีบวงสรวง คือตอนเย็นนี่บวงสรวงใช้ธูป เทียน ไม่มีเครื่องสังเวย หลังเที่ยงแล้วใช้ไม่ได้เครื่องสังเวย ตอนเช้ามีเครื่องสังเวย ฯ... ๖๔