พิธีบวงสรวง การตั้งศาลฯ และเกร็ดความรู้ในพิธีกรรมต่างๆ

พิธีบวงสรวง และเกร็ดความรู้ในพิธีกรรมต่างๆ ตามแนวคําสอนของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เขาทํางานหนัก ก็มีความหิวโหย เมื่อไม่ได้กินข้าวเย็น ตอนดึกลมก็กําเริบ ท่านอนาถบิณฑิกะ เศรษฐีขอร้องให้กินข้าว เอาอาหารดีๆ ไปให้ แล้วก็บอกว่าวันอื่นมีถมไปที่เราจะรักษาความดี แต่ว่าชายคนนี้บอกว่า ความดีเพียงครึ่งวันข้าพเจ้ายังทําไม่ไหว จะยอมให้ศีลขาดทําไม่ได้ เพราะว่าชายคนนี้บอกว่า ความดีเพียงครึ่งวันข้าพเจ้ายังทําไม่ไหว จะยอมให้ศีลขาดทําไม่ได้ เพราะความดีไม่เต็มวัน แต่ครึ่งวันแค่นี้ ถ้าปล่อยให้ศีลขาดก็จะเลวเกินไป เป็นอันว่าแกไม่ยอม กินข้าว ยอมอดข้าวตายดีกว่ายอมศีลขาด พอตอนดึกปรากฏว่าแกตาย เมื่อตายแล้วดวงจิต คือวิญญาณ หรืออทิสมาน กาย กายทีสิงอยู่ในกายเนื้อก็ล่องลอยไปเป็นเทวดา เป็น รุกขเทวดา ตัวอย่างมีเท่านี้ เป็นอันว่าภุมเทวดาก็ดี เป็นประเภททําบุญไม่เต็มที่ ภุมเทวดา ประเภททําบุญสักแต่ว่าทํา เช่นชาวบ้านเขาไปวัดก็ไป ใส่บาตรก็ใส่ไป รักษาศีลก็ไป แต่ไป ตามประเพณีแบบปู่ย่าตายายทํามาก่อนๆ เป็นสําคัญ แต่ว่าบุญนั้นก็ยังช่วยให้เป็นเทวดา สําหรับรุกเทวดานี้ ตั้งใจทําความดีจริง แต่ว่าทําไม่ครบไม่ถ้วนนี่ว่ากันเท่านี้นะ .. ภุมเทวดา และ การยกศาล ฯ .. เทวดาอยู่ใกล้ๆ บ้านเรามีเยอะ เขาเรียกว่าเทวดาอะไร ? .. มองไปข้างหน้าตามพื้นดิน เห็นท่านเดินกันออกเกลื่อน หน้าตาสะสวย มีเครื่องแต่งตัวเรียบร้อย ผิวละเอียด แลดูสวยกว่า คนสวยตั้งมาก เท้าไม่ถึงดิน เดินอยู่ใกล้ๆ แผ่นดิน แต่ว่าเท้าไม่ถึงดิน จะว่าสูงขึ้นบนอากาศก็ ไม่ใช่ ความหมายของภุมเทวดา เทวดาประเภทนี้ ท่านเรียกว่า " ภุมเทวดา " ที่บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายเรียกว่า " พระภูมิเจ้าที่ " ความจริงก็เป็นยั้งงั้น ภุมเทวดา หรือ ภูมิเทวดา ภาษาบาลี อ่านว่า ภู - มิ แล้วก็ เทวดา ภูมิ แปลว่า แผ่นดิน เทวดา แปลว่า ผู้ประเสริฐ ถ้าจะแปลกันทุกศัพท์ ก็เรียกว่า " คนที่มีความประเสริฐอยู่ในแผ่นดิน " หรือว่า " ผู้ มีความประเสริฐอยู่ในแผ่นดิน " สําหรับภุมเทวดานี้ท่านพุทธบริษัท นั่งดูให้ดี เดินดูให้ดี จะเห็นว่ามีเกลื่อนกลาดไป หมด แต่ละท่านหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส แต่งตัวสุภาพสวยงาม ลีลาการเดินก็สวย แต่น่าแปลก ๒๑