ฤาษีทัศนาจร เล่ม ๔

67 จุดที่ ๓ ก็เจ้าคณะตรวจการภาค ๓ คือ เจ้าคุณเทพวราภรณ์ วัดเทพธิดาราม แล้วก็เจ้าคุณราช รัตนโสภณ วัดสังเวช รองเจ้าคณะตรวจการภาค สององค์นี่มีจริยาแปลก ถ้าจะพูดให้ท่านฟังก็ว่า แปลกมาก ท่านเป็นเจ้าคุณ แหม น่าจะเบ่ง แล้วก็ท่านเป็นเจ้าคณะตรวจการภาคและรองเจ้าคณะ ตรวจการภาค ฐานะตําแหน่งใหญ่โต ไม่ใช่ตําแหน่งเล็ก แต่ว่าปฏิปทาของท่านซี ตรงกันข้าม ท่าน ไม่ได้แสดงอาการใหญ่โตไปข่มขู่ใคร แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่อยากแสดงตนว่าเป็นภาคและรอง ภาค เคยเจอะในที่หลายสถาน วัดที่ท่านปกครองอยู่ ท่านทํายังไงรู้ไหม ท่านได้ยินข่าวว่าไม่ค่อยดีนี่ ท่านย่องๆ กันไปทั้ง ๒ องค์ ไปองค์เดียวบ้างไป ๒ องค์บ้าง ไปดูความจริงให้มันเห็นเอง แล้วดีไม่ดี ก็ย่องเข้าไปหาคู่กรณี ขอร้องฝ่ายโน้นขอร้องฝ่ายนี้ ซึ่งปฏิปทาแบบนี้ไม่มีใครเขาทํากัน ทําเหมือนว่า ท่านเป็นผู้ไม่มีอํานาจ แต่ความจริง ท่านพุทธบริษัทอย่าคิดเป็นอย่างอื่น อาศัยความดีของท่าน ถ้า หากจิตของท่านไม่ประกอบด้วยพรหมวิหาร ๔ ถืออํานาจเป็นสําคัญ ท่านไม่ทําแบบนี้ นี่ความดี อย่างนี้มันทํากันได้ยาก แล้วเวลาประชุม ขณะที่ทําการประชุม ท่านตั้งตัวอยู่ในฐานะเจ้าคณะตรวจ การภาคและรองเจ้าคณะตรวจการภาคอย่างเต็มตัว คือ มีวาทะ ไม่ได้ใช้อํานาจเป็นธรรม ใช้ธรรม เป็นอํานาจ การพูดการจาก็ประกอบไปด้วยพรหมวิหาร ๔ มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา อยู่ ตลอดเวลา เรื่องส่วนตัวยกไป ไม่เอากัน อย่างพบกันใหม่ๆ อาตมาไม่รู้จัก ไม่รู้จักว่าใครอาตมาก็คุย ตามสบาย พระเหมือนกันหมดเรื่องกันไป ท่านภาคกับรองภาคก็ดีใจหาย ท่านไม่ได้แสดงอะไรให้ ปรากฏ เลยไม่ต้องรู้กันว่าเป็นอะไร นี่วิธีดูพระในเขตของท่าน แบบนี้มันดีจริงๆ จนกระทั่งบางคน คิดว่าเจ้าคณะตรวจการภาคกับรองภาคอ่อนแอมาก แต่ความจริง พระหรือคนประเภทนี้ต้องถือว่า เข้มแข็งมาก ไม่ใช่อ่อนแอ คือแข็งต่ออํานาจที่เมายศฐาบรรดาศักดิ์ ตําแหน่งหน้าที่ ไม่ยอมให้กิเลส ส่วนนี้มันมีเหนือกําลังใจ ท่านทรงความเป็นคุณธรรมของผู้ใหญ่ คือ พรหมวิหาร ๔ ได้ครบถ้วน และละอคติทั้ง ๔ ได้ด้วย นี่สําคัญมาก ยากแบบนี้จะบอกว่าฉันเห็นโฉงเฉงๆ ก็เปล่า ก็ดูกันไอ้จุดที่ดี คนเราจะดูกันน่ะ จะเอาดีเราก็หาจุดดีกัน ก็ได้บอกแล้วนี่ คนเราจะดีถูกใจคนไปทุกอย่างไม่ได้ ที่ อาตมาทําให้นํ้าขุ่น ก็ต้องการแบบนี้ เมื่อเวลาเลิกการประชุม ท่านก็บอกเลิก ภาคเภิคไม่มีแล้ว รอง

RkJQdWJsaXNoZXIy NzAxNDYz