ฤาษีทัศนาจร เล่ม ๔

39 หมู่บ้าน เป็นสาธารณประโยชน์ แล้วอีกส่วนหนึ่งจะนําไปสร้างพระอุโบสถบนดอยกิตจิ อาตมาก็ ประกาศให้บรรดาท่านพุทธบริษัททราบ ถึงเวลา ๑๑ นาฬิกา ความจริงอาตมามีงานที่จะต้องไป ไปอําเภอลี้ เขาบอกว่าหลวงปู่ทิมไป ป่วยอยู่ที่นั่น อยู่กับหลวงปู่วงศ์ หลวงปู่วงศ์นี่เป็นพระพิเศษ คือ ชนะใจกะเหรี่ยงได้ เอากะเหรี่ยงเข้า มาปฏิบัติกันมากมาย กะเหรี่ยงทั้งหมู่บ้าน ทั้งหมดเป็นกะเหรี่ยงที่มีศีลห้าบริสุทธิ์ เจริญสมถกรรม ฐาน วิปัสสนากรรมฐานกัน แล้วก็หลวงปู่วงศ์ท่านมีนโยบาย เพราะว่าพวกนี้เลี้ยงหมูไว้ฆ่าไว้แกง กันกัน เลี้ยงหมูเลี้ยงไก่ไว้กิน ท่านบอกว่าใครจะมาเป็นลูกศิษย์ท่าน จะต้องกินเจสามปี ไม่กิน เนื้อสัตว์ ถ้าเลยสามปีไปแล้วกินเนื้อสัตว์ได้ อันนี้เป็นนโยบายสําหรับท่าน ความจริงอาตมาบอกกับ คุณชูเกียรติว่าจะไปฉันที่เหมือง ฉันเพล แต่ที่ไหนได้ เพลตึงแล้วยังอยู่ในวิหารกับหลวงปู่ชุ่มอยู่เลย คุณอ๋อยก็เขียนหนังสือเข้ามาบอกว่าจะขออนุญาตนํารถไปก่อน รถบัส ๒ คัน ขอคําตอบเดี๋ยวนั้น คุณสุรินทร์ ตํารวจ ไม่รู้ยศชั้นไหนมาแจ้งให้ทราบว่าขอคําตอบปัจจุบัน ก็เลยตอบว่า นําไปได้เลย เมื่อเวลาฉันเพลเสร็จ คุณชูเกียรติให้รถนําทางไว้คันหนึ่ง คือเป็นรถแลนด์ โรเวอร์ ออกมา แล้วปรากฏว่ารถประจําตัวของอาตมา คือเจ้าโฟล์ค ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่คนขับไปอยู่เสียที่ไหน มัน ขวางทางอยู่ คนอื่นเขาก็เลยช่วยขับให้ เจ้านี่มันก็เกิดรวนเกียร์ค้าง ออกมาแล้วพบแพทย์หญิงวีวรรณ คํานวณกิจ กับคณะอยู่ด้วย ถามว่าไม่ได้ไปกับเขาหรือ บอกว่ารถบัสเขาไป เขาไม่ได้บอกให้ทราบ ที่รถบัสเขาไปไม่ได้บอกให้ทราบเพราะเขาแน่ใจว่ารถ แลนด์โรเวอร์ที่เขาทิ้งไว้ให้นั่นมันพอสําหรับบรรทุกคณะของแพทย์หญิงวีวรรณ คํานวณกิจ ออกมา แล้วเธอก็รายงานบอกว่าเกียร์ค้าง คุณชวาลก็บอกให้ตํารวจติดต่อช่างที่ลําพูนปรากฏว่าไม่มี คราวนี้ พลตํารวจสุรินทร์แห่งโรงพยาบาลตํารวจก็ต้องเอารถลากรถเข้ามาที่จังหวัดเชียงใหม่ วันนั้นหลวง พ่อคําแสนสองแสน คือคําแสนวัดดอนมูลแห่งอําเภอสันกําแพง กับหลวงพ่อคําแสนแห่งวัดสวน ดอก จังหวัดเชียงใหม่ อําเภอเมือง ท่านไปด้วยทั้งสองท่าน ตั้งใจจะไปเยี่ยมหลวงปู่ทิม ที่วัดหลวงปู่

RkJQdWJsaXNoZXIy NzAxNDYz