ฤาษีทัศนาจร เล่ม ๔

38 ถิ่นอื่น สําหรับพวกเราทุกคนดีมาก มีจริยาตั้งใจไปด้วยความเคารพ ไม่มีใครตื๊อแบบนั้น แต่ว่าเป็นที่ น่าเสียดายอยู่อย่างหนึ่ง วัดดอนมุย หรือว่าวัดชัยมงคลเล็กเกินไปที่จะบรรจุบรรดาพุทธบริษัท หรือ ให้บรรดาท่านพุทธบริษัทถวายนมัสการได้ง่ายๆ เพราะการเข้าไปนั่งในวิหารเล็กนิดเดียว มันจะโต ขนาดไหนก็เล็ก จะใหญ่ขนาดวิหารวัดสุทัศน์หรือวัดกัลยาณมิตรก็ยังเล็ก ถ้าจะรับคนที่ไป สัก ๑๐ เท่าก็ไม่หมด นี่ท่านที่เข้าไปก่อนท่านไม่ยอมกลับ ไปนั่งหน้าป๋อหลอ เรียกว่านั่งหน้าไม่ยอมถอย ประกาศด้วยเครื่องขยายเสียงก็แล้ว ขอร้องก็แล้ว ท่านไม่ยอมถอย แล้วก็มีพระห้า-หกองค์ ท่านก็ไป นั่งปิดประชาชนเสียอีก ต้องขอร้องบอกว่าพระคุณเจ้านี่เปิดให้ประชาชนเขาเห็นหน้าหลวงพ่อเสีย บ้าง พระท่านก็ถอย ก็ดีเหมือนกัน แต่ก่อนจะชมว่าดีก็ขอติงไว้สักนิดหนึ่ง ว่าจริยาอย่างนั้นมันไม่ เหมาะ เพราะการเข้าหาครูบาอาจารย์นี่ เขาห้ามนั่งขวางหน้า ว่าไม่ควรนั่งตรงหน้า และไม่ควรนั่ง ข้างหลัง ควรนั่งเฉียงๆ หน้าๆ ข้างๆ ละพอดีๆ เพราะเวลาที่ท่านพูดด้วยไม่ต้องหันซ้ายหันขวาให้ ลําบาก แล้วไม่เป็นการปิดหน้าเกินไป นี่ความจริงพระวินัยของเรามีแล้ว เอา ขอคุยกันต่อไป วันนั้น อาตมาก็เหน็ดเหนื่อยมาก ที่เหนื่อยมากก็ไม่ใช่อะไร ก็เป็นฝ่ายรับ ฉากประกาศจากหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านบอกว่าขณะที่เข้านิโรธสมาบัติ มีผู้หญิง ๒ คน ไม่ใช่ผู้หญิง คน เป็นผู้หญิงเทวดา รูปร่างสวย คนหนึ่งถือสมุด อีกคนหนึ่งถือถุงย่าม มาถามว่า มานั่งสมาธิทําไม ท่านก็บอกว่ามานั่งสมาธิเพื่อบุญกุศล แล้วเขาสองคนก็ชวนท่านไป ท่านก็บอกว่าท่านยังไม่ไป ขันธ์ ๕ มันยังไม่ถึงเวลาพัง แล้วเขาก็ไล่เรียงด้วยประการต่างๆ ถึงผลแห่งการเข้านิโรธสมาบัติ ท่านบอก ว่าทําเพื่อความเยือกเย็นของบรรดาท่านพุทธบริษัท เพราะเวลานี้ประเทศชาติกําลังเร่าร้อน เขาก็เลย บอกว่าเวลานี้แผ่นดินมันจะถล่มแล้ว ท่านก็เลยถามว่าตรงไหนถล่ม ถ้าแผ่นดินตรงนี้ถล่ม อาตมาก็ จะไปที่มันไม่ถล่ม ถ้ามันถล่มทั้งหมดก็ปล่อยมัน นี่ขอเล่าโดยย่อ เป็นอันว่าวันนั้น เมื่อสองสาวชาว สวรรค์ไม่สามารถจะตกลงกับท่านได้ เขาก็ลาไป เป็นอันว่าเรื่องราวทั้งหลายวันนั้นก็ของดไว้ การ นมัสการหลวงปู่ชุ่ม แล้วก็ถวายจตุปัจจัยกันทั้งหมดสามแสนเศษ ท่านก็เลยขอให้ประกาศแก่บรรดา ท่านพุทธบริษัทว่า สําหรับจตุปัจจัยนี้ จะแบ่งเป็น ๒ อย่างด้วยกัน คือ ๑.นําไฟฟ้าเข้าหมู่บ้าน ๓

RkJQdWJsaXNoZXIy NzAxNDYz