ฤาษีทัศนาจร เล่ม ๔
36 ค่อยจะทันใจ ญาติโยมพุทธบริษัทจึงพากันเหมารถ ๒ แถวไปประมาณ ๑๒ คัน ส่วนรถที่เจ้าหน้าที่ ส่งมารับนั้นก็ไม่พอแก่ความต้องการของคนที่ไป ยิ่งกว่านั้นรถส่วนตัวไปอีกมากมายก่ายกอง เป็นอันว่าขณะเดินทางไป ถ้านํารถใหญ่ไปก็คงจะงามหน้ามาก เพราะปรากฏว่ารถตํารวจที่นําเข้าไป ดันพลัดตกถนนลงมา แต่ดีนะว่าพลัดเล็ก ไม่ใช่พลัดใหญ่ พอพยุงตัวขึ้นไปได้ แล้วมีคนแจ้งว่ารถ เล็ก เป็นรถเก๋งส่วนตัวของพันเอกชวาลก็ลงไปด้วย นี่อาตมาไม่เห็นเป็นแต่เพียงคนอื่นบอกให้ฟัง เป็นอันว่าความสังหรณ์ใจที่ชาวบ้านเขาคุยกันว่า เทวดาบอกให้ทราบว่ารถจะพลัดถนน ๒ คัน เมื่อ รถของเราไม่พลัด รถของเจ้าหน้าที่ก็พลัดถ้าเป็นรถของคณะเรา ซึ่งเป็นรถใหญ่พลัดก็เสร็จ ไม่ต้อง ไปแล้ว อันนี้ก็ต้องขออภัยบรรดาท่านเจ้าหน้าที่และญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายที่ต้องสร้างความ ยุ่งยากในวันนั้นให้เกิดขึ้น เพราะความจําเป็นมันบีบบังคับแบบนี้ อาตมาเป็นรถท้ายแถว แต่ไม่ ท้ายสุด ก็ปรากฏว่า คณะของคุณหญิงเยาวมาลย์อีกประมาณ ๑๐ คันเศษ ที่รถสองแถวมารับข้างหลัง เมื่อไปถึงเขตที่จะเข้าไปสู่ที่ท่านเข้านิโรธสมาบัติ ก็มีคนมาแจ้งบอกว่า ใครไปนิมนต์หลวงปู่ชุ่มออก จากสถานที่นิโรธสมาบัติ ท่านไม่ยอมพูดด้วย ท่านนั่งหลับตาเฉยเสีย ท่านบอกว่าประเดี๋ยวมหาวีระ จะออกมา ท่านว่ายังงั้น ก็มีคนมาแจ้ง บอกว่าหลวงปู่ชุ่มไม่ยอมออกจากนิโรธสมาบัติ คอยหลวงพ่อ อยู่ นี่คุณสุรินทร์เป็นตํารวจ ไม่รู้ว่านามสกุลว่ายังไง ลืม เมื่อเขามาบอก อาตมาก็ลงจากรถ ต้องใช้ไม้เท้าที่คุณพิศัลย์ถวาย เพราะทางมันลื่นนิดหน่อย เดินลงไปปรากฏว่ามีรอยนํ้าฝนเหมือนกัน แต่เป็นฝนตกหยิมๆ เพราะปรากฏว่าทางที่ผ่านไปน่ะมัน ไม่เลอะเทอะ นี่ เรื่องที่ต้องเถียงกันมันอยู่ตรงนี้เอง เพราะสถานที่ภายนอก ที่วัดนี้ฝนตกหยิมๆ น้อยๆ ของเราซิล่อเสียจั้กๆๆ อย่างนี้จะต้องถือว่าเทวดาเป็นฝ่ายห้ามทัพ ไม่ยอมให้นํารถใหญ่เข้าไป ถ้าไม่โทษเทวดาก็ไม่รู้จะโทษใคร ไอ้ที่โทษนี่เดาๆ ส่งไป ท่านห้ามไว้ด้วยความดี ถ้ารถของเราไป ตกถนนก็งามหน้าละ บรรดาท่านพุทธบริษัท อาตมาเดินเข้าไปในสถานที่ท่านเข้านิโรธสมาบัติ เห็น คณะกะเหรี่ยงแต่งตัวแดงๆ ทีแรกคิดว่าพวกมโหรทึกของพระมหากษัตริย์ เพราะแต่งตัวแดง คล้ายกัน กําลังเตรียมหามแล้วก็มีดนตรีกะเหรี่ยง ฟังเพราะดี เขาเป่าเขา อาตมาไปปล่อยไก่เข้า คิดว่า
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NzAxNDYz