ฤาษีทัศนาจร เล่ม ๔
12 ตามชอบใจ หากว่าท่านอยากจะเป็นเปรตก็บูชาเปรต คือบุคคลที่ไม่เคารพในพระธรรมวินัย หากว่า อยากจะเป็นสัตว์นรกก็บูชาสัตว์นรก คือพวกทําลายพระธรรมวินัย อยากจะไปสวรรค์ อยากจะไป พรหม อยากจะไปนิพพานก็บูชาพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตามพระธรรมวินัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บูชาพระสุปฏิปันโนผู้ทําลายกิเลสได้แล้ว ท่านก็จะถึงพระนิพพานได้ง่าย ความจริงเรื่องของพระ นิพพานนี่เป็นเรื่องธรรมดาๆ ไม่มีอะไรเป็นของยากหรอกบรรดาท่านพุทธบริษัท แต่ว่ามันจะยาก หรือไม่ยาก ก็ขึ้นกับบรรดาท่านพุทธบริษัทที่มีการคบหาสมาคม พระพุทธเจ้าทรงกล่าวไว้ในมงคล ๓๘ ว่า อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ท่านกล่าวว่าจงอย่าคบคนพาล ถึงแม้ว่าเราจะไม่พาลด้วยเราก็พลอยเสียไปด้วย ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะคนพาลมีสภาพเหมือนสุนัขเน่าหรือของเน่า เราเป็นเสมือนหนึ่งใบบอนหรือว่าใบตอง เราเอา ไปห่อของเน่า แต่ความจริงใบบอนหรือใบตองนั้นไม่เน่า ถึงแม้ว่าเราจะโยนของเน่าออกไปแล้ว แต่ กลิ่นเหม็นมันก็ยังติดใบบอนหรือใบตองอยู่ นี่องค์สมเด็จพระบรมครูสอนไว้อย่างนี้ หากว่าบรรดา ท่านพุทธบริษัทไปบูชาอลัชชีซึ่งตัวเขาเองจะต้องลงสู่อบายภูมิ มีนรกเป็นต้น แล้วท่านจะไปไหนล่ะ ท่านจะไปไหนก็ต้องไปตามกัน เมื่อหัวหน้าเดินหน้าไปแล้วท่านอยู่ข้างหลัง ท่านก็ต้องตามเขาไป ด้วย ช่วยกันลงนรกให้นรกมีงานไม่ว่าง เป็นการสงสารนายนิริยบาลผู้รักษานรก เพราะมิฉะนั้นแล้ว แกก็จะไม่มีงานทํา ถ้าหากว่าเราบูชาพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในด้านโลกียวิสัยเพื่อฌานโลกีย์ ท่าน ก็จะมีเหตุได้ผลเกิดเป็นมนุษย์ หรือเทวดา หรือพรหม ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายบูชาพระอริยเจ้า ท่านก็ จะเห็นว่าพระนิพพานเป็นของง่ายยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ถ้ามันเป็นของยากจริงๆ ตามที่ท่านกล่าวไว้ ในตําราต่างๆ องค์สมเด็จพระบรมสุคตก็คงจะไม่บอกว่าการไปนิพพานเป็นของง่าย นิพพานัง ปรมัง สุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง นิพพานัง ปรมัง สุญญัง นิพพานเป็นธรรมว่างอย่างยิ่ง นิพพาน ไม่ได้แปลว่าสูญโญ ที่นี้คําว่าสุข ถ้าไม่มีส่วนแห่งการรับสัมผัส ที่เขาบอกว่านิพพานน่ะสูญไม่มี สภาวะใดๆ ท่านทั้งหลายก็ลองคิดดูว่าถ้าสภาวะมันไม่มี เราก็จะรู้ได้ยังไงว่ามันสุขหรือมันทุกข์ อาการที่มันจะสุขหรือมันจะทุกข์นี่ก็ขึ้นอยู่กับอาการรับสัมผัส นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท การ
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy NzAxNDYz