ฤาษีทัศนาจร เล่ม ๔

6 เดียรัจฉานนับตั้งแต่วันอุปสมบทเป็นต้นมา ชาวบ้านเขาบวชกันแล้วเป็นพระ แต่อาตมาบวชแล้ว เป็นเดรัจฉาน ความจริงมันก็โก้ดี อาตมาเห็นว่านามที่หลวงพ่อปานเรียกนี้เป็นมงคลนาม จึงได้ใช้ ตลอดมา “ฤาษีลิงดํา”ที่ใช้คําว่าฤาษี ก็เพราะว่าปฏิปทาของอาตมาเองไม่ค่อยจะเหมือนชาวบ้านเขา ถ้าไปใช้คําว่าพระ บรรดาพระที่มีปฏิปทาไม่เหมือนท่านจะหาว่าอาตมาเป็นพระที่เลวทราม เลยตัด คําว่าพระข้างหน้าออกเสีย ใส่คําว่า “ฤาษี” จะได้ไม่เป็นเหตุทําลายศักดิ์ศรีของบรรดาภิกษุสงฆ์ใน พระพุทธศาสนา ทีนี้มาว่ากันถึงกุญแจกล บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ที่เราจะไปไขปากพระกัน เพราะว่าบรรดาพระที่ทรงความดีทั้งหลาย ท่านเอาตะปูตอกปากของท่านเสียหมด ท่านไม่ยอมพูด ความจริงท่านก็พูดไม่ได้ ถ้าพูดแล้วก็เป็นการผิดพระวินัย การได้เอง พูดเอง เป็นการอวดอุตริมนุสธ รรม เขาว่ากันยังงั้น ถ้าหากความคิดประเภทนี้มีขึ้นในใจของบรรดาท่านพุทธบริษัท ก็ขอให้กลับไป อ่านพระวินัยเสียใหม่ คําว่าอวดอุตริมนุสธรรมนี้ ท่านลงท้ายว่าไม่มีในตน คนที่ไม่มีความดี ไม่ได้ ฌานสมาบัติ ไม่ได้อริยมรรค อริยผล ไปอวดเข้า องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาทรงปรับเป็น โทษ คือขาดจากความเป็นภิกษุ ที่เรียกว่าอาบัติปาราชิก จะบวชใหม่ต่อใหม่มันก็ไม่ติด ทีนี้จะทํายังไง วิธีไขปากพระ อาตมาก็เดินทางไปในภาคเหนือตามพระพุทธบัญชา ท่าน ทั้งหลายอาจจะสงสัยว่าพระพุทธเจ้าท่านมาสั่งเมื่อไร อาตมาก็จะขอบอกว่า สั่งไว้ตั้งแต่เมื่ออาตมา บวช หรือว่าสั่งไว้ตั้งแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศพระศาสนา วิธีสั่งของ พระพุทธเจ้าก็ไม่มีอะไรมาก คือสั่งให้เราสร้างปฏิปทาของเราให้เข้าไปใกล้เคียงพอที่จะรู้กันได้ เมื่อ พอจะรู้กันได้แล้วมันก็มีกุญแจกลเกิดขึ้นเอง กุญแจนี้เป็นกุญแจทิศ เมื่อถึงเวลาคิดว่าในงานวัน ครบรอบร้อยปีหลวงพ่อปานก็ดี วันยกช่อฟ้าก็ดี วันฝังลูกนิมิตก็ดีจะต้องอาราธนาพระผู้ทรงความดี ประเภทนี้มาชุมนุมกัน เพื่อเป็นมิ่งขวัญแก่บรรดาท่านพุทธบริษัทให้ได้ และหลังจากนั้นไปก็ขอพร จากท่านทั้งหลาย ว่าปีหนึ่งก็ขอให้มาชุมนุมกันครั้งหนึ่ง อาจจะขยายมากออกไปเกินกว่า ๑๑ องค์ก็

RkJQdWJsaXNoZXIy NzAxNDYz